โดนตกกันถ้วนหน้า ! รู้จัก "นมทางเลือก" นมกระแสรองที่กำลังมาแทนที่นมวัว !

avatar writer
โดย : imnat
avatar writer10 ส.ค. 2565 avatar writer4.4 K
โดนตกกันถ้วนหน้า ! รู้จัก "นมทางเลือก" นมกระแสรองที่กำลังมาแทนที่นมวัว !

 

ช่วงนี้ไม่ว่าจะหันหน้าไปทางไหน ก็เจอแต่นมทางเลือกแทบจะทั้งนั้น 👀 ทำให้มนุษย์ที่โตมาพร้อมกับนมวัวอย่างพวกเรา ต้องปรับตัวให้เข้ากับกระแสในแบบที่ปฎิเสธไม่ได้ ถึงแม้บางคนอาจจะยังไม่ถึงขั้นเปลี่ยนพฤติกรรมไปดื่มนมทางเลือกซะทีเดียว แต่อย่างน้อยแค่ได้รู้จัก หรือผ่านตากับนมทางเลือกมาบ้าง แค่นี้ก็ถือว่าอุ่นใจแล้ว 

 

แต่ในขณะเดียวกัน ก็มีคนบางกลุ่มที่เปลี่ยนพฤติกรรม จากเดิมที่เคยดื่มแต่นมวัว ก็เบนเข็มไปหานมทางเลือกในแบบที่ ไปแล้วไปลับ  เลยก็มี ถ้าถามถึงเหตุผลว่าทำไมพวกเค้าถึงตัดสินใจเลือกดื่มนมทางเลือกกัน คำตอบง่าย ๆ เลย ก็คือ ก็เพราะว่าพวกเค้าไม่คิดที่จะดื่มนมวัวอีกต่อไป และถ้าเค้นคำตอบในแบบที่ลงลึกไปอีกหน่อย เหตุผลข้อแรก (และดูเหมือนจะเป็นเหตุผลยอดฮิต) ที่มักจะถูกอ้างถึง ก็ได้แก่เหตุผลที่ว่า พวกเค้าแพ้นมวัว นั่นเอง

 


 

 

"แพ้นมวัว" เหตุผลยอดฮิตของคนที่ตัดสินใจหันมาดื่มนมทางเลือก

 

จริง ๆ แล้วอาการแพ้นมวัวไม่ใช่โรคที่เพิ่งเกิดขึ้นใหม่ แล้วเราเพิ่งค้นพบได้อะไรทำนองนั้น แต่ทว่ามันมีมานานแล้ว เพียงแต่ว่าก่อนหน้านี้เราอาจจะไม่ได้มีทางเลือกในการบริโภคนมกันขนาดนั้น ถ้าเอาให้ดีที่สุดที่พอจะหาได้เลย ก็คือ นมถั่วเหลือง  ซึ่งบางคนก็ไม่ได้พิศวาสในรสชาติของมัน เลยทำให้ต้องอดทนกลั้นใจดื่มแต่นมวัวมาตลอด ถึงแม้ว่าร่างกายจะเจอกับเอฟเฟกต์หลังจากที่ดื่มนมวัวไปบ้าง ไม่ว่าจะเป็น 

 

  • อ้วนขึ้น
  • สิวขึ้น
  • มีอาการอาเจียนหลังจากดื่มนม
  • ท้องอืด ท้องเฟ้อ ท้องเสีย
  • อาหารไม่ย่อย

 

ซึ่งเจ้าอาการเหล่านี้ ทำให้หลายคนเข้าใจว่านี่เป็นอาการของโรคแพ้นมวัว ซึ่งจริง ๆ แล้วมันก็มีทั้งส่วนที่ถูก และผิด  เพราะถ้าเราพูดถึงโรคแพ้นมวัวจริง ๆ ผู้ป่วยที่เข้าข่ายว่าเป็นโรคนี้จะมีอาการที่เห็นได้ชัด หลัก ๆ เลย ก็คือ อาการอาเจียนหลังจากดื่มนม หายใจลำบาก หายใจติดขัด มีผื่นขึ้นบริเวณใบหน้าและลำตัว

 

แต่ถ้าใครที่มีอาการอาหารไม่ย่อย ท้องอืด ท้องเฟ้อ ท้องเสีย อันนี้อาจจะเป็นผลพวงมาจากปริมาณของแลคโตสที่มีอยู่ในนม ที่มีเยอะจนเกินไป ทำให้ร่างกายของเราย่อยไม่ทัน หรือบางคนอาจจะเป็นโรคเกี่ยวกับการทำงานของลำไส้ที่แปรปรวน หรือ IBS ที่ลำไส้ไม่สามารถย่อยนมวัวได้ แต่ใดใดก็ตาม บรรดาสารพัดอาการเหล่านี้ ทำให้หลายคนที่เป็นเริ่มส่ายหัวให้กับนมวัวไปตาม ๆ กัน และโชคดีที่ว่าเราดันค้นพบสิ่งที่เรียกว่า นมทางเลือก ที่ดูเหมือนจะเกิดมาเพื่อพวกเค้าเหล่านั้น มากกว่านมวัวที่เคยรู้จักกันมาเสียอีก 😉 

 


 

 

ทำความรู้จัก "นมทางเลือก"

นมกระแสรองที่กำลังมาแทนที่นมวัว

 

เผื่อว่าใครอาจจะยังไม่เข้าใจว่าสิ่งที่เรียกว่า นมทางเลือก  นี้คืออะไร เราขอสรุปสั้น ๆ ให้เข้าใจได้ง่าย ๆ นมทางเลือก เป็นนมที่เกิดมาเพื่อทดแทนการดื่มนมในคนที่ไม่สามารถดื่มนมวัว หรือนมที่มาจากสัตว์ชนิดอื่น ๆ ได้ เนื่องด้วยเหตุผลหลาย ๆ อย่าง ซึ่งหนึ่งในนั้นก็ได้แก่ อาการแพ้นมวัว อย่างที่เราได้พูดถึงก่อนหน้านี้ และนอกจากเหตุผลอย่างการแพ้นมวัวแล้ว ในคนที่รักสุขภาพ ที่อยากจะควบคุมปริมาณแคลอรี่ที่ได้รับในแต่ละวัน ก็ให้ความสนใจนมทางเลือกนี้ด้วยเช่นเดียวกัน เพราะนมทางเลือกบางประเภท มีปริมาณแคลอรี่ที่น้อยกว่านมวัวเกินครึ่ง เลยทำให้คนที่รัก และใส่ใจในสุขภาพหันมาเลือกดื่มนมทางเลือกในแบบที่ปฎิเสธไม่ได้

 

ซึ่งบรรดานมทางเลือกที่มีอยู่ในตอนนี้ก็มีด้วยกันหลายประเภทมาก ๆ แต่เราจะขอหยิบยกเอานมทางเลือกที่ได้รับความนิยมมาก และกำลังมาแรงในบ้านเรามาพูดถึงกัน 3 ตัว นั่นก็ได้แก่ นมถั่วเหลือง นมอัลมอนด์ และนมโอ๊ต นมทางเลือกน้องใหม่ที่กำลังมาแรงในตอนนี้สุด ๆ

 

 

🥛 นมถั่วเหลือง นมทางเลือกที่เกิดมาเพื่อเป็น "แฝดคนละฝา" กับนมวัว

 

ถ้าถามว่านมชนิดไหนที่มีสารอาหาร รวมถึงโภชนาการที่พอจะสูสีกับนมวัวได้ คำตอบแรกที่คุณจะได้ ก็ได้แก่ นมถั่วเหลือง นมทางเลือกที่หลายคนน่าจะรู้จักกันมานาน ตั้งแต่สมัยที่เรายังเป็นเด็กเลยก็ว่าได้ และอย่างที่บอกว่านมถั่วเหลืองเป็นนมที่พอจะสูสีกับนมวัวได้ ซึ่งสิ่งที่พอจะสูสีได้ที่เราหมายถึงก็ได้แก่ ปริมาณโปรตีน ที่นมถั่วเหลืองนั้น มีปริมาณของโปรตีนที่ใกล้เคียงกับนมวัวมากที่สุด ในบรรดานมทางเลือกทั้งหมด

 

โดยนมถั่วเหลืองเป็นนมที่ทำมาจากถั่วเหลือง และโปรตีนถั่วเหลือง ซึ่งโดยส่วนมากแล้วมักจะนำมาผสมกับสารที่เพิ่มความข้น หรือไม่ก็น้ำมันพืช เพื่อทำให้เนื้อสัมผัสของนมดูข้น ดูมีความหนาของ Texture เวลาที่กลืนเข้าไป และนอกจากสารเหล่านี้จะช่วยเพิ่มระดับความหนาของเนื้อสัมผัสได้แล้ว มันยังทำให้รสชาติของนมถั่วเหลืองมีความกลมกล่อม ผสมกับความครีมมี่หน่อย ๆ แต่สิ่งที่เป็นเอกลักษณ์มากที่สุดก็ได้แก่ กลิ่นของนมถั่วเหลือง  ที่ต่อให้จะหลับตาดื่มก็แล้ว แต่หลายคนก็น่าจะเดากันได้อยู่ดี ว่านี่คือกลิ่นของนมถั่วเหลือง 💛 

 

และอย่างที่บอกว่านมถั่วเหลืองถือว่าเป็นนมทางเลือกที่มีปริมาณของโปรตีนที่ใกล้เคียงกับนมวัวมากที่สุด มันเลยตอบโจทย์สายปั้นหุ่น สร้างกล้าม ที่ต้องการสารอาหารประเภทโปรตีนแต่ก็ไม่อยากได้โปรตีนจากนมวัว ก็สามารถเลือกดื่มนมถั่วเหลืองแทนได้ เพราะในบรรดานมทางเลือกทั้งหมด นมถั่วเหลือง จัดว่าเป็นนมทางเลือกที่มีโปรตีนที่สมบูรณ์ที่สุด  อีกทั้งยังมีกรดอะมิโนที่จำเป็นต่อร่างกาย ซึ่งเจ้ากรดอะมิโนที่ว่าเป็นกรดอะมิโนที่โดยปกติแล้วร่างกายเราจะไม่สามารถผลิตเองได้ ต้องอาศัยเติมเข้าไปจากการกินอาหาร ซึ่งหนึ่งในอาหารที่ว่านั้นก็ได้แก่ นมถั่วเหลือง นั่นเอง

 

 

ถึงแม้ว่านมถั่วเหลืองจะได้รับการอวยยศว่ามีปริมาณโปรตีนที่มีคุณภาพที่พอจะเทียบเท่ากับนมวัวได้ แต่ก่อนหน้านี้ ถั่วเหลือง เคยเป็นวัตถุดิบที่มีข้อกังขามาก่อน  อารมณ์เหมือนแบบยังไม่ทันได้ทำอะไร ก็มีคนไม่ชอบขี้หน้าเข้าซะแล้ว 😣 

 

เพราะว่าก่อนหน้านี้ ทางการแพทย์ไม่ได้ยอมรับในประสิทธิภาพของถั่วเหลือง และผลิตภัณฑ์ที่ทำมาจากถั่วเหลืองเลย ไม่ว่าประสิทธิภาพนั้นจะเล็กน้อยหรือยิ่งใหญ่แค่ไหน อย่างที่มีคนเคยอวยยศถั่วเหลืองเอาไว้ ก็ได้แก่ ประสิทธิภาพในเรื่องของการลดความเสี่ยงในการเกิดมะเร็งเต้านม ความเสี่ยงต่อการเกิดโรคหลอดเลือดหัวใจ อีกทั้งยังมีสรรพคุณด้านการบำรุงผิวพรรณ บรรเทาอาการซึมเศร้า ซึ่งต้องบอกเลยว่า บรรดาประสิทธิภาพที่ถูกอ้างถึงเหล่านี้เคยถูกปัดตกมาแล้ว  จนกระทั่งเริ่มมีการศึกษาวิจัยเกี่ยวกับสรรพคุณ รวมถึงประสิทธิภาพในแง่ต่าง ๆ ของถั่วเหลือง รวมถึงผลิตภัณฑ์ที่ทำมาจากถั่วเหลือง ถึงค่อย ๆ ได้รับการยอมรับมากขึ้น

 

ซึ่งหนึ่งในการวิจัยเหล่านั้น ก็ได้แก่ งานวิจัยของ Mark Messina ที่ได้ศึกษาประสิทธิภาพของถั่วเหลือง โดยผลการวิจัยของเค้าสามารถสรุปเป็นข้อ ๆ ได้ว่า

  • ถั่วเหลืองเป็นอาหารที่มีโปรตีนคุณภาพสูงอยู่จริง ๆ แถมยังมีในปริมาณที่สูงกว่าโปรตีนจากพืชชนิดอื่น ๆ และที่สำคัญยังมีความคล้ายคลึงกับโปรตีนที่อยู่ในสัตว์มาก

  • ถั่วเหลืองเป็นอาหารที่มีคาร์โบไฮเดรตต่ำ ดีต่อสุขภาพของคนที่กำลังลดน้ำหนัก รวมถึงผู้ป่วยที่เป็นโรคเบาหวาน

  • ถั่วเหลืองเป็นอาหารที่มีไขมันดี  ซึ่งถือว่าเป็นอาหารเพียงแค่ไม่กี่ชนิดที่ได้รับการรับรองว่าเป็นแหล่งของไขมันดี ซึ่งเราสามารถพบได้จากผลิตภัณฑ์จำพวกน้ำมันถั่วเหลือง

  • ถั่วเหลืองมีวิตามินและแร่ธาตุที่หลากหลาย อีกทั้งยังดีต่อร่างกาย แถมยังสามารถ สร้างเซอร์ไพรส์ให้เราได้ จากการนำถั่วเหลืองไปแปรรูปผ่านกระบวนการต่าง ๆ อย่างเช่น นัตโตะ หรือถั่วเน่าที่คนญี่ปุ่นชอบกัน มีวิตามิน K2 สูงมาก ซึ่งไอ้เจ้าวิตามิน K2 นั้นจะสามารถช่วยบำรุงกระดูก และรักษาเนื้อเยื่อในกระดูกได้

  • อีกทั้งถั่วเหลืองยังมีสารที่ชื่อว่า ไอโซฟลาโวน  ซึ่งมีฤทธิ์ต่อต้านอนุมูลอิสระในร่างกาย สามารถป้องกันมะเร็งเต้านมได้ อันนี้สามารถอ้างอิงจากงานวิจัยของ คุณชรินทร์ ถาวรคุโณ ที่ได้ศึกษาเกี่ยวกับกลไกการออกฤทธิ์และความเกี่ยวข้องในการป้องกันมะเร็งเต้านมของนมถั่วเหลือง ไว้ตอนนึงว่า

    เมื่อเปรียบเทียบระหว่างประเทศที่นิยมบริโภคถั่วเหลือง และผลิตภัณฑ์ที่มาจากถั่วเหลืองเป็นประจำ กับประเทศในแถบตะวันตก ที่ไม่ค่อยนิยมบริโภคถั่วเหลืองสักเท่าไหร่ พบว่า มีความต่างกันถึง 6 เท่า ในแง่ของอัตราการเกิดมะเร็งเต้านม จากผลการศึกษาพบว่า ประเทศที่นิยมบริโภคถั่วเหลืองมีอัตราการเกิดของมะเร็งเต้านมที่ ต่ำกว่า ประเทศที่ไม่นิยมบริโภคถั่วเหลือง

 

 

แต่ทั้งนี้ ถั่วเหลืองอาจไม่ใช่ Safe Zone ของทุกคนเสมอไป  เพราะบางคนอาจจะไม่ถูกกับนมถั่วเหลือง ไม่ว่าจะเป็นในแง่ของรสชาติ (ส่วนตัวเราคนนึงและ ที่ไม่ชอบรสชาติของนมถั่วเหลืองเลย) หรือบางคนอาจจะมีอาการแพ้ถั่วเหลือง (Soy Allergy) ให้เห็นอย่างชัดเจนไม่ว่าจะเป็น อาการหายใจลำบาก มีลมพิษ หรือผื่นขึ้น หลังได้รับประทานอาหาร หรือดื่มเครื่องดื่มที่มีส่วนผสมของถั่วเหลือง 

 

ซึ่งทางออกของคนกลุ่มนี้ หลังจากที่ส่ายหัวให้กับทั้งนมวัว และนมถั่วเหลืองมาเรียบร้อยแล้ว 😅  ก็คือการมองหานมทางเลือกประเภทอื่น ๆ ซึ่งหนึ่งในนมทางเลือกที่ในช่วงก่อนหน้านี้เคยเป็นกระแสในบ้านเราก็ได้แก่ นมอัลมอนด์

 

 

🥛 นมอัลมอนด์ นมทางเลือกที่ "ยืนหนึ่งในเรื่องของความ Light" ตอบโจทย์สายรักสุขภาพ

 

มาต่อกันที่นมทางเลือกที่ว่ากันว่าเกิดมาเพื่อสายเฮลตี้ที่มีการควบคุมปริมาณแคลอรี่ที่ได้รับในแต่ละวัน เพราะ นมอัลมอนด์  มีจุดเด่นในเรื่องของ ปริมาณแคลอรี่ที่น้อย  ซึ่งโดยปกติแล้วนมอัลมอนด์มักจะทำมาจากส่วนผสมอย่าง เมล็ดอัลมอนด์ หรือไม่ก็เนยอัลมอนด์ที่นำมาผสมเข้ากันกับน้ำเปล่าอีกที ดังนั้นจุดสังเกตของนมอัลมอนด์หลัก ๆ จะอยู่ที่ เนื้อสัมผัสที่เบา เหลว มีรสชาติหวานน้อย (ค่อนไปทางจืดสนิท) มีกลิ่นหอมของอัลมอนด์ที่ค่อนข้างชัด และนอกจากจะนิยมดื่มแบบเพียว ๆ แล้ว มักจะถูกนำไปผสมกับชา กาแฟ หรือสมูทตี้ หรือจะใช้แทนนมวัวเวลาที่ทำขนมหวานอะไรแบบนี้ก็ได้

 

และอย่างที่บอกไปว่านมประเภทนี้มีแคลอรี่น้อยกว่านมวัวมาก (อย่างบางยี่ห้อก็คือน้อยกว่าเกินครึ่งเลยด้วยซ้ำ) ซึ่งไอ้เจ้าแคลอรี่ที่น้อยกว่านี้ก็จะมาพร้อมกับไขมันที่น้อยกว่า (อันนี้ถือว่ายังดี) และยังมาพร้อมกับปริมาณโปรตีน รวมถึงคาร์โบไฮเดรตที่น้อยกว่าด้วยเช่นกัน  ดังนั้นสายเฮลตี้ที่ต้องการสร้างกล้ามเนื้อ นมชนิดนี้อาจจะไม่ตอบโจทย์  เพราะปริมาณโปรตีนที่มีอยู่ในนมอัลมอนด์ถือว่าน้อยมากจนแอบขัดใจ แต่ถ้าใครที่เป็นสายเฮลตี้ที่ต้องการลดน้ำหนัก ด้วยการควบคุมปริมาณแคลอรี่ อันนี้ถือว่าตอบโจทย์ดีมาก ๆ 👍🏼 

 

ขอขยายความต่อในเรื่องของประสิทธิภาพในการลดน้ำหนัก จะบอกว่ามีงานวิจัยที่ช่วยยืนยันเกี่ยวกับประสิทธิภาพในการลดน้ำหนักด้วยการเปลี่ยนจากการดื่มนมวัวธรรมดา แล้วหันมาดื่มนมจากอัลมอนด์แทน ซึ่งงานวิจัยชิ้นนี้เป็นงานวิจัยของ Jozaa Zaidan AI Tamimi ที่นอกจากจะศึกษาเกี่ยวกับดัชนีมวลกายแล้ว เค้ายังได้ศึกษาเกี่ยวกับประสิทธิภาพในเรื่องการลดระดับน้ำตาลในเลือด ความดันโลหิตหลังจากที่ดื่มนมอัลมอนด์ติดต่อกันนานหลายสัปดาห์ด้วยเช่นกัน

 

 

โดยงานวิจัยชิ้นนี้ได้ให้ผู้ทดสอบ ดื่มนมอัลมอนด์ในปริมาณ 240 ml / วัน เป็นประจำทุกวันติดต่อกัน 4 สัปดาห์  ปรากฎว่าผลการทดสอบเริ่มเห็นผลได้ตั้งแต่สัปดาห์ที่ 2 ว่าผู้ทดสอบส่วนใหญ่มีรอบเอวที่เล็กลง ในส่วนของความดันโลหิต รวมถึงแรงดันเลือดยังไม่เห็นผล แต่ผลที่มีการเปลี่ยนแปลงมากที่สุดก็ได้แก่ ดัชนีมวลกาย รวมถึงขนาดของรอบเอวที่เล็กลงนั่นเอง

 

แต่ในขณะเดียวกันก็มีคนบางส่วนกังขาในแง่ของสารอาหารที่มีอยู่ในนมอัลมอนด์ อย่างที่บอกไปว่านอกจากแคลอรี่ของมันจะมีน้อยกว่านมวัว รวมถึงนมทางเลือกชนิดอื่น ๆ แล้ว ผู้ที่ดื่มต้องยอมรับไว้ก่อนเลยว่าเราแทบจะไม่ได้สารอาหารอะไรจากการดื่มนมประเภทนี้เลย ซึ่งนักโภชนาการก็ได้มีการแนะนำว่า ถ้าต้องการดื่มนมอัลมอนด์ และอยากได้สารอาหารที่พอจะเป็นไปได้มากที่สุด ควรเลือกดื่มนมอัลมอนด์ที่มีสัดส่วนของอัลมอนด์อยู่ระหว่าง 7-15%  (สามารถสังเกตที่ข้างกล่องได้) ถึงจะเป็นการดีที่สุด หรือถ้าใครอยากได้นมทางเลือกที่ก้ำกึ่งระหว่างนมวัว กับนมอัลมอนด์ นมทางเลือกน้องใหม่อย่าง นมโอ๊ต ก็ถือว่าน่าสนใจไม่แพ้กัน 😉 

 

 

🥛 นมโอ๊ต นมทางเลือก "น้องใหม่" ที่สายงานคาร์บต้องยกนิ้วให้ !

 

ช่วงนี้กระแสนมโอ๊ตในบ้านเราก็คือมาแรงมาก เชื่อว่าหลายคนที่กำลังอ่านคอนเทนต์นี้อยู่น่าจะเคยได้ลิ้มรสชาติของนมทางเลือกน้องใหม่นี้กันมาแล้ว ซึ่ง นมโอ๊ต  เป็นการผสมผสานกันระหว่างข้าวโอ๊ตกับน้ำ แต่ก็จะมีการ Add ส่วนผสมอื่น ๆ ตามลงไปด้วยเพื่อให้ได้รสชาติ และ Texture ที่ชวนให้ดื่มมากยิ่งขึ้น 🤤 

 

สำหรับเนื้อสัมผัสของนมโอ๊ตก็จะมีความแอบคล้ายกับนมอัลมอนด์เบา ๆ แต่จะมีรสชาติที่หวานกว่านิดหน่อย (อันนี้คือรสธรรมชาติ แบบที่ยังไม่ได้นำไปผสมกับส่วนผสมอื่น ๆ นะ) ซึ่งว่ากันว่าถ้าเรานำนมโอ๊ตไปผสมกับพวกซีเรียล หรือไม่ก็สมูทตี้จะให้รสชาติที่ดี และน่าสนใจมากยิ่งขึ้น และถึงแม้ว่าปริมาณแคลอรี่ที่มีอยู่ในนมโอ๊ตจะมีความสูสีกับนมวัว (หรืออาจจะน้อยกว่านิดหน่อย) แต่จุดเด่นที่ไม่พูดถึงไม่ได้เลยก็คือ คาร์โบไฮเดรต  ที่นมโอ๊ตมีค่อนข้างสูง  ซึ่งเจ้าคาร์โบไฮเดรตนี้มีความสำคัญ และจำเป็นต่อร่างกาย เพราะนอกจากเราจะใช้พลังงานหลักจากแคลอรี่ของอาหารที่เราได้กินเข้าไปแล้ว คาร์โบไฮเดรตเองก็จำเป็นต่อการเพิ่มพลังงานให้กับร่างกายด้วยเช่นกัน

 

 

แต่สิ่งที่น่าสนใจยิ่งไปกว่านั้น ก็คือ ปริมาณของไฟเบอร์ และเบต้ากลูแคน ที่มีส่วนช่วยในการลดการดูดซึม ลดระดับคอเลสเตอรอล แถมยังช่วยลดความเสี่ยงต่อการเกิดโรคหัวใจได้ อย่างถ้าเป็นเรื่องของการลดระดับคอเลสเตอรอล ได้มีงานวิจัยเกี่ยวกับประสิทธิภาพของนมโอ๊ตต่อการลดระดับคอเลสเตอรอลเอาไว้ โดยงานวิจัยชิ้นนั้นเป็นของ G Onning ที่ได้มีการศึกษากลุ่มทดสอบซึ่งเป็นผู้ชายที่มีระดับของคอเลสเตอรอลสูง โดยให้พวกเค้าดื่มนมโอ๊ตวันละ 750 ml เป็นประจำ ต่อเนื่องกัน 5 สัปดาห์ จากผลการทดลองสามารถสรุปได้ว่า นมโอ๊ตสามารถช่วยลดปริมาณคอเลสเตอรอลได้สูงถึง 3% เลยทีเดียว

 

แต่ทั้งนี้ทั้งนั้น หลังจากที่เราได้ทำความรู้จักกับนมทางเลือกกันมาแล้วถึง 3 ชนิด เราจะสามารถจับสังเกตได้ว่า นมทางเลือกแต่ละตัวก็มีความแตกต่างกัน ไม่สามารถทดแทนกันได้ซะทีเดียว ซึ่งนั่นก็หมายความว่า นมทางเลือกทุกตัว ไม่สามารถแทนที่นมวัวได้ขนาดนั้น (หรือแม้แต่นมวัวเองก็เถอะ) แต่นั่นก็ไม่ได้หมายความว่า มันจะไม่มีนมที่เกิดมาเพื่อความต้องการของเรากันเลย เพียงแต่เราแค่ต้องเลือกนมที่ใช่ ที่พอจะตอบโจทย์ความต้องการของเราให้ได้มากที่สุดเท่านั้นเอง 😉 

 


 

เทียบให้ดู "นมวัว vs นมพืช"

โภชนาการต่างกันตรงไหนบ้าง ?

 

สำหรับใครที่อยากจะมองเห็นภาพชัด ๆ 👀  ว่านมแต่ละตัวมีจุดเด่น - จุดด้อยต่างกันยังไง เราได้ทำการหยิบตัวอย่างของนมทั้ง 4 ประเภท แล้วจัดการเทียบความต่างให้ได้เห็นกันแบบ หมัดต่อหมัด  เผื่อว่าใครที่กำลังมองหานมที่ใช่ ที่ตอบโจทย์ความต้องการของตัวเองกันอยู่ หวังว่าตารางนี้จะให้คำตอบที่ดีที่สุดกับทุกคนกันนะ 😎 

 

 

เริ่มกันที่นมประเภทแรกอย่าง นมวัว ที่มีข้อได้เปรียบกว่านมพืช หรือนมทางเลือกอื่น ๆ ตรงที่ หาซื้อง่าย มีราคาอยู่ในระดับกลาง ๆ มีสารอาหารที่สูงถึง 13 ชนิด อย่างที่เด่น ๆ เลยก็คือปริมาณของโปรตีนที่มีค่อนข้างสูง ซึ่งไม่ได้หมายถึงนมวัวเพียงอย่างเดียว อย่างนมควายที่จัดอยู่ในประเภทเดียวกันก็มีปริมาณโปรตีนที่สูงกว่านมวัว (ที่ว่าสูงอยู่แล้ว) ถึง 11% เพียงแต่ว่าความนิยมของมันอาจจะไม่ค่อยเยอะเมื่อเทียบกับนมวัว

 

นอกจากนี้ในนมวัวยังมีแคลเซียม โพแทสเซียม วิตามินดี วิตามินบี 12 รวมถึงสารอาหารต่าง ๆ อีกหลายชนิด ซึ่งบรรดาสารอาหารเหล่านี้ก็จะช่วยบำรุงร่างกาย และลดโอกาสเกิดโรคต่าง ๆ ได้ แต่นมวัวมักจะมีข้อติอยู่นิดหน่อยตรงที่ มีปริมาณของแคลอรี่ รวมถึงไขมันที่ค่อนข้างสูง แต่เดี๋ยวนี้นมวัวก็ทำออกมาหลายสูตร อย่างเช่นสูตรไขมันต่ำ ขาดมันเนย ก็ถือได้ว่าน่าจะตอบโจทย์ความต้องการของผู้ดื่มกันได้แบบครบถ้วน แต่ยังไงก็ตามนมวัวอาจไม่เหมาะกับคนที่เป็นโรคแพ้นมวัว หรือคนที่มีปัญหาเกี่ยวกับระบบการย่อย ที่อาจจะหนีไปทดแทนด้วยการดื่มนมทางเลือกมากกว่า

 

📌  ดังนั้นถ้าให้สรุปง่าย ๆ เลยก็คือ นมวัวเหมาะสำหรับคนที่

  • กำลังอยู่ในวัยเจริญเติบโต
  • ผู้สูงอายุ หรือคนที่ต้องการแคลเซียม
  • คนที่อยู่ในกรุ๊ปเลือด B และ AB ที่มักจะไม่ค่อยมีปัญหาเรื่องของการย่อยนมวัว จึงจะเหมาะกับนมชนิดนี้เป็นอย่างมาก

 

 

มาต่อกันที่ นมถั่วเหลือง อย่างที่เราบอกไปก่อนหน้านี้ ว่านมถั่วเหลืองเป็นนมจากพืชที่ เหมาะกับการดื่มเพื่อทดแทนนมวัวมากที่สุด ที่สำคัญนมถั่วเหลืองยังหาซื้อง่าย มีราคาถูกกว่านมประเภทอื่น ๆ สำหรับจุดเด่นหลัก ๆ ของนมถั่วเหลือง คือ ปริมาณของโปรตีน  ที่จัดได้ว่าเป็นนมทางเลือกที่มีโปรตีนสูงเทียบเท่ากับปริมาณโปรตีนที่อยู่ในนมวัว ในขณะที่แคลอรี่ ไขมัน รวมถึงคาร์โบไฮเดรตอาจจะน้อยกว่านมวัวนิดหน่อย แต่ก็ถือว่านมถั่วเหลืองจัดว่าเป็นช้อยส์ที่เหมาะสมที่สุดสำหรับการดื่มเพื่อทดแทนนมวัว 🐄 

 

แต่ในขณะเดียวกัน ข้อกังขาในเรื่องของรสชาติ รวมถึงในคนที่มีอาการแพ้ถั่วเหลือง อาจจะไม่ถูกจริตกับนมประเภทนี้ โดยเฉพาะคนที่เป็นโรคลำไส้แปรปรวน รวมถึงมีภาวะท้องอืดจากการบริโภคน้ำตาล อาจจะต้องหลีกเลี่ยงการดื่มนมชนิดนี้ด้วยเช่นเดียวกัน

 

📌  ดังนั้นถ้าให้สรุปง่าย ๆ นมถั่วเหลืองจะเหมาะสำหรับคนที่

  • ต้องการนมที่มีโปรตีนสูง (แต่ไม่ใช่โปรตีนที่มาจากนมวัว)
  • คนที่แพ้นมวัว หรือมีปัญหาเกี่ยวกับการย่อยแลคโตสที่อยู่ในนมวัว
  • คนที่อยู่ในกรุ๊ปเลือด A และ AB อย่างในคนเลือดกรุ๊ป A มักจะมีปัญหาเรื่องการย่อยนมวัว ดังนั้นการหันมาดื่มนมที่มีปริมาณโปรตีนที่สูสีกับนมวัว จึงจะตอบโจทย์ได้มากกว่า

 

 

มาในส่วนของ นมอัลมอนด์  นมทางเลือกที่ก่อนหน้านี้เคยได้รับความนิยมมากในบ้านเรา โดยเฉพาะรสชาติของความเป็นอัลมอนด์นัว ๆ บวกกับ Texture ที่ดูมีอะไร เลยทำให้นมอัลมอนด์น่าจะได้ใจหลายคนกันถ้วนหน้า โดยจุดเด่นของนมอัลมอนด์นี้จะอยู่ที่ แคลอรี่ที่ค่อนข้างต่ำ เมื่อเทียบกับนมทั้งหมด ซึ่งข้อดีของความเป็นแคลอรี่ต่ำนี้ก็คือจะตอบโจทย์สายเฮลตี้ที่ต้องการจะควบคุมน้ำหนัก ด้วยการลดปริมาณแคลอรี่ที่ได้รับต่อวันลง แต่ก็ต้องยอมรับอย่างนึงว่า นอกจากแคลอรี่ที่ต่ำแล้ว พวกโภชนาการ รวมถึงสารอาหารอื่น ๆ ที่เราจะได้รับ ก็ย่อมที่จะลดลงตามไปด้วย (แถมยังมีราคาที่สูงกว่านมประเภทอื่น ๆ อีกด้วย)

 

แต่นั่นก็ไม่ได้หมายความว่า นอกจากแคลอรี่ที่ต่ำแล้ว นมอัลมอนด์จะไม่มีอะไรดีเลย เพราะจริง ๆ แล้วมันก็มี อย่างถ้าเป็นพวกสารอาหารประเภท วิตามินอี รวมถึงสารแอนตี้ออกซิเดน ที่มีส่วนช่วยในการต่อต้านอนุมูลอิสระ นมอัลมอนด์ก็มีอยู่ แต่ถ้าใครที่ต้องการสารอาหารที่อยู่ในอัลมอนด์แบบเต็มที่ นักโภชนาการส่วนใหญ่ก็จะ แนะนำให้ไปกินเมล็ดอัลมอนด์ อะไรแบบนี้อาจจะดีกว่า

 

เพราะกว่าจะเป็นนมอัลมอนด์ที่เรารู้จักกัน มันต้องผ่านกระบวนการต่าง ๆ เริ่มตั้งแต่การนำเมล็ดอัลมอนด์ไปลอกเอาผิวหนังออก ซึ่งทำให้วิตามิน โปรตีน รวมถึงแร่ธาตุหลายตัวถูกทำลายไป แล้วไหนจะนำมาเจือจางกับน้ำเปล่าอีก ดังนั้นหากใครที่ต้องการจะนำมาดื่มเพื่อทดแทนการดื่มนมวัว หรือดื่มเพื่อต้องการควบคุมแคลอรี่ อันนี้สามารถทำได้ แต่ถ้าคิดจะดื่มเพื่อต้องการสารอาหารที่มีประโยชน์ อันนี้แนะนำว่าอย่าดีกว่า 😅 

 

📌  ดังนั้นถ้าให้สรุปง่าย ๆ นมอัลมอนด์จะเหมาะสำหรับคนที่

  • ต้องการควบคุมแคลอรี่ ด้วยการเน้นรับประทานอาหารที่มีแคลอรี่ต่ำ
  • คนที่อยู่ในกรุ๊ปเลือด O และ AB ที่แนะนำให้ดื่มนมจากพืชมากกว่านมจากสัตว์ อย่างในกรุ๊ป AB มีลักษณะของเลือดผสม สามารถกินอาหารได้หลากหลายประเภท แต่ไม่ควรหยุดอยู่กับอาหารประเภทใด ประเภทนึงนานเกินไป ดังนั้นควรสลับมาทานอาหารที่หลากหลาย ถึงจะเหมาะสมกับกรุ๊ปเลือดมากที่สุด

 

 

ปิดท้ายกันที่ นมโอ๊ต  นมทางเลือกใหม่ล่ามาแรง 🔥 ที่มีราคาอยู่ในระดับที่จัดว่าสูง (แต่ก็ยังน้อยกว่านมอัลมอนด์นิดหน่อย) ไอ้สูงไม่สูงไม่เท่าไหร่ แต่การตามล่าแบบพลิกแผ่นดินหาเล่นทำเอาเหนื่อย โดยเฉพาะในยี่ห้อที่บูมมาก ๆ เล่นเอาหาร้านช็อปกันแบบเหนื่อยหอบกันไปข้าง 😅  

 

ส่วนจุดเด่นของนมโอ๊ตจะอยู่ที่ ปริมาณไขมันที่น้อย และมีคาร์โบไฮเดรตสูง  ส่วนแคลอรี่จัดว่าอยู่ในระดับกลาง ๆ ไม่มากไม่น้อยจนเกินไป อย่างใครที่เลือกไม่ถูก ไม่รู้ว่าจะจิ้มนมทางเลือกไหนมาดื่มดี อาจจะมาจบที่ตัวนี้ ที่มีความกลาง ๆ มากที่สุดก็ได้ ในส่วนของสารอาหารหลัก ๆ จากนมโอ๊ตแทบจะไม่ต่างจากสารอาหารที่มีอยู่ในนมวัว (แต่มีน้อยกว่า) แต่ก็มีสารอาหารอยู่ 1 อย่างที่ไม่มีในนมวัว แต่มีในนมโอ๊ตก็ได้แก่ ธาตุเหล็ก ที่มีส่วนช่วยในการเสริมภูมิต้านทาน สร้างการเจริญเติบโต ป้องกันภาวะโลหิตจาง รวมถึงช่วยให้ผิวพรรณแลดูเปล่งปลั่ง

 

แต่ถึงแม้ว่าจะมีข้อด้อยกว่านมวัวในเรื่องของสารอาหารอยู่มาก แต่บรรดานมโอ๊ต รวมถึงนมทางเลือกอื่น ๆ ก็มีการพลิกเกมด้วยการผสมส่วนผสมอื่น ๆ ที่ช่วยในการเพิ่มสารอาหารที่น่าสนใจเข้ามา ซึ่งไม่ใช่ในแง่ของส่วนผสมอย่างเดียว แต่ยังรวมถึงในแง่ของรสชาติที่ทำให้ดูน่ากินมากขึ้นด้วย 😍 

 

📌  ดังนั้นถ้าให้สรุปง่าย ๆ นมโอ๊ตจะเหมาะสำหรับคนที่

  • เป็นสายเฮลตี้ (แต่ไม่ได้เคร่งมาก)
  • คนที่อยากสนุกกับการดื่มนมทางเลือก ไม่ได้เน้นว่าจะต้องเป็นรสชาติที่เพียวที่สุด หรือจะต้องเป็นเรียลโอ๊ตที่สุด
  • คนที่อยู่ในกรุ๊ปเลือด O และ AB ที่แนะนำให้ดื่มนมจากธัญพืชมากกว่านมจากสัตว์ เน้นนมที่มีปริมาณไขมันที่ไม่สูงมาก อย่างนมอัลมอนด์ รวมถึงนมโอ๊ตก็เป็นนมทางเลือกที่อยากจะแนะนำ

 


 

💭 ดังนั้นจากข้อมูลทั้งหมดเราจะเห็นได้ว่า นมทางเลือก (ชื่อก็บอกอยู่แล้วว่าเป็นนมทางเลือก) ไม่สามารถมาแทนที่นมวัวในแง่ของสารอาหาร รวมถึงโภชนาการได้  ดังนั้นใครที่ต้องการจะดื่มนมทางเลือกแทนการดื่มนมวัวโดยหวังว่าจะได้รับสารอาหารเท่าเทียมกัน บอกเลยว่าคิดผิด แต่ถ้าเรากำลังมองหานมทางเลือก ที่เข้ามาช่วยทดแทนความอยากดื่มนม ในคนที่มักจะมีปัญหาเวลาที่ดื่มนมวัว ไม่ว่าจะเป็นอาการแพ้นมวัว ท้องอืด ท้องเสีย อาหารไม่ย่อย อันนี้ก็สามารถเลือกดื่มนมทางเลือกแทนได้ 

 

ซึ่งบรรดานมทางเลือกแต่ละตัวก็มีข้อดี - ข้อด้อยที่แตกต่างกันออกไป หากใครมีเงื่อนไขอยู่แล้วในใจว่าเราอยากจะได้สารอาหารประเภทนี้ ราคาประมาณนี้ หรือว่าต้องการเลือกนมที่เหมาะกับกรุ๊ปเลือดของตัวเอง ก็สามารถเลือกนมทางเลือกโดยอ้างอิงจากข้อมูลในส่วนนั้น ๆ ได้ แต่ถ้าใครที่ไม่ได้มีเป้าหมายในใจ แต่เลือกดื่มจากรสชาติของนมเป็นหลัก ก็ลองหาซื้อบรรดานมทางเลือกเหล่านี้มาลองกันดู เพราะเดี๋ยวนี้ต้องยอมรับเลยว่าวาไรตี้ของนมมันมีหลากหลายมากจริง ๆ ยังไงก็หวังว่าข้อมูลจากบทความนี้ของเรา จะช่วยให้เพื่อน ๆ ไขข้อกระจ่างในบางเรื่องกันได้นะ 😍 

 

อ่านบทความที่เกี่ยวข้องอื่น ๆ ได้ที่นี่

 


แหล่งข้อมูลอ้างอิง  : gonnaneedmilk, healthline, pobpad และ paolohospital

  • avatar writer
    โดย imnat
    เสพติดการอ่าน & ดูหนัง ตอนนี้อยู่ในระหว่างการทำตามความฝันให้สำเร็จ :)
แสดงความคิดเห็น